วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560

วิธีเลี้ยงสัตว์เลี้ยงน่ารักอย่าง กระต่าย

กระต่าย


กระต่ายสายพันธุ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาเลี้ยง พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงกระต่าย ที่คนคิดจะเลี้ยงกระต่ายควรรู้ไว้ ก่อนจะนำเจ้าตัวน้อยมาเลี้ยง

เสน่ห์ของกระต่ายอยู่ที่ขนนุ่มนิ่มและตากลมแบ๊วนี่แหละ เลยทำให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าหมาหรือแมวเลย แถมยังดูน่ารัก เรียบร้อย ไม่ส่งเสียงรบกวน แต่เห็นน่ารัก กินง่าย อยู่ง่ายแบบนี้ ใช่ว่าจะซื้อแล้วนำมาใส่กรงเลี้ยงได้เลย ก่อนการเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ตามจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลการอยู่ การกิน รวมถึงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกระต่ายและวิธีเลี้ยงกระต่ายมาฝากกัน ใครคิดจะเลี้ยงกระต่ายควรจะศึกษาไว้ก่อนเลย


นิสัยของกระต่าย

1. การกินมูลตัวเอง (Coprophagy)
กระต่ายจะมีการถ่ายมูลพวงองุ่นที่อ่อนนุ่มในยามเช้าตรู่ แล้วกินกลับเข้าไปใหม่เพื่อปรับลำไส้ให้เป็นปกติ โดยในมูลพวงองุ่นก็จะมีทั้งวิตามินบี โปรตีน และแบคทีเรียที่ดี เมื่อกระต่ายกินมูลกลับเข้าไปก็จะได้รับสารอาหารและแบคทีเรียที่ดีกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง

2. การกัดแทะสิ่งของ
กระต่ายเป็นสัตว์ฟันแทะและจะแทะเพื่อลับฟัน ไม่ให้ฟันงอกยาวจนเกินไป เพราะหากฟันยาวอาจจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้อีกมากมาย ฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงควรหากิ่งไม้ ท่อนไม้แห้งเล็ก ๆ แข็ง ๆ หรือไม้แทะแบบสำเร็จรูปทิ้งไว้ให้แทะเล่น แต่ก็ต้องดูว่าไม้นั้น ๆ ต้องไม่เป็นอันตรายต่อกระต่ายด้วย

3. การนอน
ที่จริงแล้วกระต่ายเป็นสัตว์หากินกลางคืน จะตื่นตอนกลางคืนเพื่อหากินและจะหลับในเวลากลางวัน กระต่ายบางตัวจะนั่งนิ่ง ๆ สักพักโดยไม่หลับตาและนั่นคือการนอนของพวกมัน เพราะกระต่ายมีสัญชาตญาณในการระวังตัวสูง มักตกอยู่ในสถานะผู้ถูกล่าเสมอ จึงระวังตัวตลอดเวลา

4. การเคาะเท้า
กระต่ายอาจจะเคาะหรือกระโดดขึ้น-ลงให้เกิดเสียง เพื่อเป็นการเตือนภัย พวกมันจะเคาะเท้าเมื่อเกิดภาวะเครียดและตื่นกลัว เช่น มีสัตว์อื่นเข้ามาใกล้บริเวณที่อยู่หรือไม่คุ้นเคยเวลามีคนจะเข้าไปอุ้ม

5. ความก้าวร้าว
อาการก้าวร้าวอาจเกิดจากการตามใจจนติดเป็นนิสัย การถูกรังแก หรือความต้องการเป็นเจ้าของอาณาเขต จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับนิสัยของกระต่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการตามใจและการถูกรังแกจนฝังใจมากกว่า ซึ่งจะแสดงออกโดยการกัดเวลายื่นมือเข้าไปหรือกัดเวลาได้ของไม่ถูกใจ

สายพันธุ์กระต่ายที่นิยมเลี้ยง



1. กระต่ายไทย (Thai Rabbit)
เป็นกระต่ายพื้นบ้านของประเทศไทย มีขนสั้น ตัวใหญ่ ว่องไวปราดเปรียว หูยาว หน้าค่อนข้างแหลม มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง สามารถกระโดดได้สูง ทนต่อสภาพอากาศได้ดีและมีหลากหลายสี

2. ไลอ้อนเฮด (Lionhead Rabbit)
มีขนาดตัวไม่ใหญ่มาก มีขนเป็นแผงคอลักษณะคล้ายสิงโต ตัวอ้วน สั้นและกลม หูสั้น ตั้ง มีขนปกคลุม มีหลากหลายสี ทั้งสีขาว น้ำตาล ส้ม และสีผสม ขนาดเมื่อโตเต็มที่หนักประมาณ 2 กิโลกรัม

3. โปลิช (Polish Rabbit)
นับได้ว่าเป็นกระต่ายพันธุ์ที่เล็กที่สุดเลยก็ว่าได้ น้ำหนักโตเต็มที่ประมาณ 8 ขีด ขนเป็นสีดำ เทา แทน ขาว เป็นสีเดียวกันทั้งลำตัวหรือมีจุดสีแซมเล็กน้อย ดวงตาเล็กเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ ไม่ชอบอากาศร้อน

4. มินิลอป (Mini Lop)
กระต่ายอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างมากในปัจจุบันนี้ มีลักษณะหูตก กะโหลกใหญ่ ขนสั้น แน่น เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 1.8 กิโลกรัม

5. เจอร์รี่วูดดี้ (Jerry Woody)
อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ขนยาวน่ารัก มีลักษณะคล้ายกับเท็ดดี้แบร์ แต่จะมีโครงสร้างที่ใหญ่กว่า น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 2-3 กิโลกรัม

6. ฮอลแลนด์ลอป (holland Lop)
พันธุ์กระต่ายที่มีลักษณะตัวป้อมหัวกลม ขนสั้นหนา นุ่มลื่น ใบหูทั้งสองข้างแนบสนิทกับแก้ม กินเก่ง มีสีมากมายหลากหลายสี ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มสีต่าง ๆ ได้มากถึง 7 กลุ่มสี  โตเต็มที่จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม